Thursday, 23 March 2023

ฟันฮิปโป กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนจากสัตว์ป่าที่นักลักลอบสนใจค้าแทนงาช้าง

ฟันฮิปโป นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ความจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้ทำให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยบางครั้งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” (vulnerable to extinction)

ขณะที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา องค์กรการกุศลด้านความสะดวกสัตว์ป่าได้เรียนรู้ความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ฟันฮิปโป ฮิปโปโปเตมัส

“เราพบการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร”

ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้ แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน เดือนกันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปมากขึ้น ซึ่งจำนวนฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็เผชิญกับการคุกคามอยู่” รายงานกำหนด

บรรดานักค้นคว้าบอกว่า ลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งทั้งโลกเห็นด้วยด้วยกันในการห้ามการค้างาเป็นครั้งแรก แล้วก็มีความเข้มงวดขึ้น เนื่องจากว่ารัฐบาลต่างๆได้เอามาตรการใหม่ๆมาใช้เพื่อสำหรับการห้าม

เช่นเดียวกับงา ฟันและเขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้เพื่อการสลักเพื่อนำไปตกแต่งตกแต่ง แม้กระนั้นของพวกนั้นราคาถูกกว่า และก็หามาครองได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปโปเตมัสยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญากล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่ารวมทั้งพืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่การขายในต่างถิ่นควรจะมีเอกสารสิทธิ์การส่งออก

นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ข้อจำกัดที่เข้มงวดเยอะขึ้นเรื่อยๆต่อการลักลอบค้างาช้างได้ก่อให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากขึ้น โดยบางทีก็อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นพันธุ์” (vulnerable to extinction)

ในช่วงเวลาที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา องค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์ป่าได้ศึกษาเล่าเรียนความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

“พวกเราพบการค้าฟันฮิปโปเพิ่มมากขึ้นในสหราชอาณาจักร ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้” แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน กันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปมากขึ้น ซึ่งปริมาณฮิปโปตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานระบุ

ฟันฮิปโป งาช้าง

บรรดานักวิจัยกล่าวว่า รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989

ซึ่งทั่วโลกเห็นด้วยด้วยกันในการห้ามการค้างาเป็นครั้งแรก และมีความเข้มงวดขึ้น เนื่องจากว่ารัฐบาลต่างๆได้เอามาตรการใหม่ๆมาใช้เพื่อการห้าม

เหมือนกันกับงา ฟันและก็เขี้ยวของฮิปโปมักถูกใช้สำหรับในการแกะเพื่อนำไปประดับประดาตกแต่ง แต่ว่าของพวกนั้นราคาถูกกว่า รวมทั้งหามาครองได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญาเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสิ้นซาก (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่ว่าการขายในต่างประเทศต้องมีเอกสารสิทธิ์การส่งออก

ชาติในแอฟริกากลางแล้วก็ตะวันตก 10 ชาตินี้ก็เลยได้เสนอทางที่เรียกว่า “ความเห็นประกอบ” ซึ่งจะทำให้มีการระบุโควตาเป็นศูนย์ในการค้าตัวอย่างสัตว์ป่าเพื่อเป้าหมายทางการค้า แต่ข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการช่วยสนับสนุนจากสหภาพยุโรป หรือจากชาติต่างๆในแอฟริกาใต้แล้วก็ตะวันออก ซึ่งบอกว่า ปริมาณประชากรฮิปโปยังคงอยู่ในระดับที่ดี

บางประเทศในแอฟริกาใต้และก็ตะวันออก ได้แก่ แทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย รวมทั้งซิมบับเว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดฮิปโปโปเตมัสราว 3 ใน 4 จากจำนวน 13,909 ตัว ที่ถูกนำส่วนประกอบแล้วก็สินค้าต่างๆจากฮิปโปเหล่านี้ไปขายระหว่างปี 2009-2018

โจอันนา สวาเบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโฆษณาของสมาคมมนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ชี้ว่า แทบไม่มีการจัดการอะไรก็แล้วแต่ตั้งแต่ปี 2016 เพื่อรักษาปริมาณฮิปโปโปเตมัส

“แทบจะไม่มีการศึกษาเรียนรู้วิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปริมาณประชากรที่จริงจริงของฮิปโปโปเตมัสในประเทศต่างๆเหล่านี้เลย” เธอกล่าว

“ช่วงเวลาที่ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านี้รู้ว่า กำลังเกิดอะไรสังกัดฮิปโปโปเตมัสภายในดินแดนของตัวเอง ดังนั้น พวกเขาไม่ควรนิ่งเฉย”

ฮิปโปมีอัตราการเกิดต่ำ โดยคลอดลูกเพียง 1 ตัวในแต่ละปี ด้วยเหตุดังกล่าวการมีปริมาณประชากรฮิปโปที่น้อยลงอาจทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้

ฟันฮิปโป

ฟันฮิปโป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮิปโป

ฮิปโปโปเตมัสทุกตัวอาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยมี 2 ชนิดคือ ฮิปโปโปเตมัสธรรมดา (common hippo) ซึ่งคาดว่า มีประชากรราว 115,000-130,000 ในปี 2016 รวมทั้งฮิปโปโปเตมัสแคระ (pygmy hippo) ซึ่งมีประชากรราว 2,000-3,000 ตัว

ฮิปโปธรรมดาจัดอยู่ในชนิด “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติในปี 2016

มีการค้าส่วนประกอบแล้วก็ผลิตภัณฑ์ต่างๆของฮิปโปโปเตมัส 13,909 ตัว อย่างถูกกฎหมาย ระหว่างปี 2009-2018 โดย 3 ใน 4 ของฮิปโปเหล่านี้มีต้นกำเนิดอยู่ในแทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย และซิมบับเว

มีการค้าฟันฮิปโปอย่างถูกตามกฎหมายน้ำหนักรวม 770,000 กิโลกรัม ระหว่างปี 1975-2017 แม้กระนั้นไม่รู้จำนวนการค้าอย่างไม่ถูกกฎหมาย

ผู้ที่มีความชำนาญด้านสัตว์ป่ากล่าวด้วยว่า จำเป็นที่จะต้องเฝ้าดูการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสในขณะที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายอย่างสนิทสนม

ฮิปโปโปเตมัสธรรมดาถูกลงบัญชีในภาคผนวกที่ 2 ของไซเตส ซึ่งแปลว่า อาจจะสิ้นพันธุ์ได้ หากไม่มีการควบคุมการค้าอย่างเอาจริงเอาจัง

10 ประเทศดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งกำลังพยายามให้มีการห้ามการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสทั้งโลก กล่าวว่า มีหลักฐานที่แจ้งชัดว่า “มีการปนเปกันระหว่างฟันฮิปโปผิดกฎหมายแล้วก็ถูกต้องตามกฎหมาย” ทำให้ฟันฮิปโปที่ถูกลักลอบล่า “ถูกนำไปฟอกเพื่อนำไปขายในตลาดถูกต้องตามกฎหมาย”

หากไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น นักเคลื่อนไหวเตือนว่า ฮิปโปโปเตมัสอาจจะมีเคราะห์กรรมเหมือนกันกับช้าง ซึ่งกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (endangered) หรือใกล้สิ้นซากอย่างยิ่ง (critically endangered) ในกรณีของช้างป่าแอฟริกา เนื่องจากว่าผู้ลักลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าช้างป่าเหล่านี้จำนวนมากเพื่อเอางาของพวกมัน

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC