Thursday, 23 March 2023

อินโดผ่านกฎหมาย ห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส

รัฐสภาอินโดนีเซียอนุมัติกฎหมายอาญาฉบับใหม่ที่กำหนดให้การร่วมเพศนอกกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นกฎหมายที่ริดรอนสิทธิของประชาชน อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง

กฎหมายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะบังคับใช้อีกทั้งกับชาวอินโดนีเซีย และ ชาวต่างชาติ รวมถึงกฎหมายจริยธรรมอีกหลายฉบับที่จะทำให้คู่แต่งงานที่ยังไม่ได้แต่งงานที่อยู่ร่วมกัน และ ร่วมเพศกันนับว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย

คู่รัก หรือ บิดามารดาสามารถแจ้งเหตุในความผิดฐานร่วมเพศนอกกฎหมายได้ และ การทำผิดสำหรับการล่วงประเวณีดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะก่อให้ผู้ทำบางทีอาจได้รับโทษจำคุก

กลุ่มสิทธิมนุษยชนบอกว่า กฎหมายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมีผลเสียต่อสิทธิสตรี กลุ่ม LGBT และ ชนกลุ่มน้อยในประเทศ ทำให้มีผู้คนกลุ่มเล็กๆออกมารวมตัวกันต่อต้านหน้าตึกรัฐสภาในกรุงจาการ์ตา

ประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะยังไม่เป็นผลบังคับใช้ไปจนกว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ยังรวมถึงกฎหมายที่ห้ามการดูหมิ่นผู้นำ และ การพูดต้านอุดมการณ์ของเมือง

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน พูดว่า กฎหมายใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมีการยับยั้งสิทธิสำหรับการแสดงออกทางการเมือง และ จำกัดเสรีภาพทางศาสนา

ด้านสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียพูดว่า พวกเขาได้เพิ่มการปกป้องเสรีภาพในการพูดและการต่อต้านที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

องค์กรฮิวแมนไรท์วอช บอกว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นของอินโดนีเซียนับว่าเป็นหายนะด้านสิทธิมนุษยชน และนับว่าเป็นความปราชัยครั้งใหญ่ของประเทศที่เพียรพยายามจะปรากฏตัวว่าเป็นมุสลิมสมัยใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย

อินโดนีเซีย

อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง ใครละเมิดต้องติดคุก

คนที่ฝ่าฝืนกฎหมายใหม่นี้แบ่งเป็นคนที่มี ความเกี่ยวข้องทางเพศก่อนแต่งงาน จึงควร โดนจับจับ และ ต้องโทษจำคุกซึ่งมีกำหนดสูงสุดคือ 1 ปี สำหรับคู่แต่งงานที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน หรือ มีสถานะเป็น คู่แต่งงานโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงควรได้รับโทษจำคุกเหมือนกัน แต่มีกำหนดโทษสูงสุดอยู่ที่ 6 เดือน

ตามกฎข้อบังคับของ กฎหมายใหม่ พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองของคนไม่มีคู่รักที่ร่วมเพศกับบุคคลอื่น จึงควรแจ้งเหตุต่อตำรวจถึงความประพฤติปฏิบัติของลูกของตัวเอง แต่ในกรณีของบุคคลที่แต่งงานแล้ว เกิดเป็นชู้ หรือ นอกใจ คนที่จะร้องทุกข์ได้คือคู่แต่งงานเท่านั้น

ตามรายงานข่าว ได้มีความพากเพียรที่จะผ่านร่างกฎหมายนี้มายาวนานกว่าทศวรรษแล้ว เดิมทีคาดว่า ร่างแรกของกฎหมายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะผ่านมติรัฐสภาในปี 2562 แต่ก็พบกระแสต่อต้านจากประชาชนจำนวนมากในหลายเมืองใหญ่เสียก่อน

เนื้อหาของการปรับแก้กฎหมาย

เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ที่เป็นข้อแย้งเร่าร้อน คือ การกำหนดให้การร่วมเพศก่อนแต่งงาน และ การร่วมเพศนอกกฎหมาย รวมถึงการอาศัยอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงานที่ยังไม่แต่งงาน นับว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายอาญา

ประมวลกฎหมายใหม่ยังมีผลบังคับใช้กับชาวต่างชาติที่พำนักพักพิงอยู่ในอินโดนีเซีย รวมถึงนักเดินทางด้วย

ยิ่งกว่านั้น มาตราที่ถูกปรับแก้ ยังรวมถึง การออกกฎหมายห้ามการเปลี่ยนศาสนา และ บทกำหนดโทษกรณีการพูดดูถูกเหยียดหยามผู้นำ หรือ แสดงความเห็นที่ขัดกับอุดมคติของประเทศชาติ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเพิ่มบทกำหนดโทษ กรณีดูถูกเหยียดหยามศาสนา เป็นโทษจำคุก 5 ปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการตรวจดูร่างกฎหมายของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ชี้ว่า การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้ จะช่วยคุ้มครองสถาบันครอบครัว และ ความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน

ไม่เพียงเท่านั้น ข้อกฎหมายจะส่งผลก็ต่อเมื่อ คู่รัก บิดามารดา หรือ ลูกๆเป็นผู้แจ้งเหตุถึงการกระทำผิด อีกทั้ง ร่วมเพศก่อนแต่งงาน และ นอกกฎหมาย

ประท้วงกฏหมาย

ห้ามมีเซ็กซ์นอกสมรส-อยู่ก่อนแต่ง นักท่องเที่ยวก็โดน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย กล่าวว่า รัฐสภาของประเทศ อินโดนีเซีย เห็นด้วยกฎหมายอาชญากรรมใหม่ในวันอังคารที่ 6 ธ.ค. 2565 ห้ามมีใครก็ช่างร่วมเพศนอกการแต่งงาน มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ท่ามกลางความไม่ค่อยสบายใจว่า กฎหมายนี้จะก่อให้นักเดินทางกลัวจนไม่กล้าเดินทางมา และ บางทีอาจเกิดโทษต่อการลงทุน

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อินโดนีเซียมีกฎหมายห้ามร่วมเพศกับคนที่ไม่ใช่คู่แต่งงานของตนเองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยห้ามการร่วมเพศระหว่างคนที่ยังไม่แต่งงาน โดยกฎหมายใหม่จะมีผลต่ออีกทั้งชาวอินโดนีเซีย, ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ หรือ เดินทางเข้ามาในอินโดนีเซีย และ ยังห้ามการอยู่ก่อนแต่งงานระหว่างคู่แต่งงานด้วยแม้ละเมิดจึงควรต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน แต่กฎหมายฉบับนี้จะยังไม่เป็นผลตรงเวลา 3 ปี เพื่อร่างแนวทางการบังคับใช้กฎ

อย่างไรก็ดี กฎหมายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นพบเจอเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ตัวอย่างเช่นนายเมาลานา ยูสราน รองประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งอินโดนีเซีย พูดว่า กฎหมายใหม่นี้เป็นการถ่วงความรุ่งเรืองอย่างสิ้นเชิง ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจ และ การท่องเที่ยวกำลังเริ่มฝื้นตัวกลับมาจากการระบาดของโควิด-19

“เราเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลปิดตาตัวเอง เราแสดงความกังวลต่อกระทรวงการท่องเที่ยวถึงความอันตรายของกฎหมายนี้ไปแล้ว” นายยูสรานกล่าว

โดยสมาคมการท่องเที่ยวเกาะบาหลีเคยคาดการณ์ไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดที่ 6 ล้านคนภายในปี 2568 ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียยังพยายามดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานผ่านทางออนไลน์ หรือ  digital nomad ให้มาเที่ยวในประเทศดด้วยการผ่านคลายกฎวีซ่าด้วย

ด้านนายอัลเบิร์ต แอรีส โฆษกกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายใหม่จะถูกจำกัดโดยผู้ที่สามารถแจ้งความได้ เช่น พ่อแม่, คู่สมรส หรือ ลูกของผู้ต้องสงสัยกระทำผิด

“จุดประสงค์ของกฎหมายนี้คือการปกป้องสถาบันการแต่งงาน และ ค่านิยมของอินโดนีเซีย ในเดียวกันก็ปกป้องความเป็นส่วนตัวของชุมชน และ ปฏิเสธสิทธิ์ของสังคม หรือ บุคคลที่ 3 ไม่ให้แจ้งความเรื่องนี้ หรือ  ‘ทำตัวเป็นผู้พิพากษา’ โดยอ้างศีลธรรม” นายแอรีสกล่าว